สามเณรน้อยเล่งเน่ยยี่ .
สามเณรเดินบิณฑบาตตามหลังพระสงฆ์เป็นภาพที่เราคุ้นตา แต่ไม่เคยเกิดขึ้นสำหรับศาสนาพุทธ นิกายมหายาน ทั้งๆ ที่มีสามเณรที่ปฏิบัติธรรมและเล่าเรียนอยู่เป็นจำนวนมาก และที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ เณรน้อยเหล่านี้ในอดีตคือเด็กฐานะยากจน ที่ได้รับการหยิบยื่นโอกาสให้ได้เรียนหนังสือจนถึงระดับอุดมศึกษา
"ซือหูจะสร้างศาสนทายาทเพื่อให้โอกาสทางการศึกษาเล่าเรียนแก่ผู้ด้อย โอกาส อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือสังคมและภาครัฐอีกด้วย โดยหวังว่าเยาวชนเหล่านี้ เมื่อเข้ามาบรรพชาแล้วจะได้รับการอบรมคุณธรรม จริยธรรม นำคำสอนของศาสนามากล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนดี" นี่คือปณิธานเกี่ยวกับศึกษาของพระภิกษุสามเณรโรงเรียนวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) ของพระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัด ผู้สถาปนาโรงเรียนประจำวิถีพุทธมหายาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 เพื่อสร้างทายาทสืบทอดพระพุทธศาสนา
ปัจจุบันโรงเรียนวัดมังกรกมลาวาสวิทยาลัย เปิดรับเยาวชนไทยเข้าบวชเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ประเภทการศึกษาสงเคราะห์แบบอยู่ประจำเรียนฟรี สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดสอนตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ จัดการเรียนการสอนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 มีวิชาการเรียนการสอนมีครบทั้ง 8 กลุ่มสาระ และยังมีวิชาทางพระพุทธศาสนาทั้งฝ่ายเถรวาทและมหายานด้วย
เหตุที่ว่า ช่วงนี้ตรงกับเทศกาลตรุษจีน โรงเรียนวัดมังกรกมลาวาสจึงหยุดพักการเรียนการสอนชั่วคราว สามเณรส่วนใหญ่ใช้เวลาว่างช่วยงานจิปาถะภายในวัด ซึ่งมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเข้ามากราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันอย่าง แน่นขนัด อีกส่วนหนึ่งเดินทางไปวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ หรือวัดเล่งเน่ยยี่ 2 จังหวัดนนทบุรี เนื่องจากกำลังมีงานปิดทองฝังลูกนิมิต ระหว่างวันที่ 23 ม.ค.-3 ก.พ.นี้
พระศิริชัย ภมรศิลปธรรม หรือเสี่ยใช้ ผู้ช่วยครูใหญ่โรงเรียนมังกรกมลาวาสวิทยาลัย เล่าว่า สามเณรส่วนใหญ่เป็นเด็กมาจากต่างจังหวัดทั่วทุกภูมิภาค พื้นฐานทางครอบครัวคล้ายกันคือ เป็นเด็กกำพร้า ครอบครัวแตกแยก พ่อแม่ ผู้ปกครองให้มาบวชเพราะติดเพื่อน ติดเกม หรือกลัวจะติดยาเสพติด จึงส่งลูกหลานมาเรียนที่วัด พ่อแม่บางคนกังวลว่าลูกจะตกเป็นทาสในสังคมบริโภคนิยม ก็ให้ลูกบวชเพื่อฝึกอบรมบ่มเพาะวินัย และขัดเกลากิเลสให้เป็นคนมีจิตใจดีงาม นอกจากให้โอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนผู้ด้อยโอกาสแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาสังคมได้อีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับตารางกิจวัตรประจำวันของสามเณร เริ่มต้นเวลาตี 4 ครึ่ง ตื่นนอนเตรียมตัวทำวัตรเช้า นั่งสมาธิสวดมนต์แผ่เมตตา จากนั้นจัดโต๊ะอาหารและฉันเช้าเวลา 8 โมง โดยไม่บิณฑบาต เพราะต้องฉันอาหารเจที่โรงครัวในวัด หลังฉันเช้าเสร็จก็จะทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย เช่น ทำความสะอาดบริเวณวัดและเริ่มเรียนพุทธมนต์ ศึกษาพระธรรมวินัยเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ก่อนจะฉันเพลอีกครั้งเวลา 11 โมง เวลาบ่ายโมงเข้าห้องเรียนวิชาสามัญตามหลักสูตรภาคบังคับของกระทรวง ศึกษาธิการ พอถึงเวลาบ่าย 3 โมง ทำวัตรเย็นแล้วกลับเข้าห้องเรียนอีกครั้ง เวลา 5 โมงเย็นจนถึง 2 ทุ่ม เป็นอันเสร็จสิ้นวัตรปฏิบัติในแต่ละวัน
"สามเณรมีจำนวน 200 รูป เข้าเรียนตั้งแต่วันจันทร์ถึงเสาร์ โดยมีครูประจำการสอน 8 คน และมีอาจารย์โรงเรียนเทพศิรินทร์มาช่วยสอนบางวิชา สามเณรทุกรูปจะได้เรียนภาษาจีนกลางที่วัดเน้นมากเป็นพิเศษ สำหรับวันหยุดเป็นวันอาทิตย์และวันพระ จะมีกิจกรรมชุมนุม อาทิ จิตพัฒนา การงานอาชีพ คอมพิวเตอร์ และงานศิลปะ" พระศิริชัยกล่าว
สามเณรบัญชา ปิดตาทานัง กำลังศึกษาอยู่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 เล่าว่า ตอนแรกที่รู้ว่าจะมาบวชรู้สึกตื่นเต้นมาก พอโยมพ่อโยมแม่กลับบ้านแล้วก็รู้สึกเหงา และเศร้าจนร้องไห้อยากกลับบ้าน เมื่อเวลาผ่านไปทำให้เริ่มปรับตัวได้ ไม่อยากกลับบ้านแล้ว ขณะนี้มีความสุขที่ได้บวชให้พ่อแม่เป็นครั้งแรกในชีวิต พ่อแม่ผมบอกให้อยู่จนจบ ม.6 ผมจะตั้งใจปฏิบัติธรรมและศึกษาเล่าเรียน เมื่อเรียนจบแล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะบวชต่อหรือลาสิกขา"พ่อแม่เลี้ยงดูผมมาตั้งแต่เด็กและตามใจผมทุกอย่าง แต่ตอนนี้ผมต้องตามใจพ่อแม่บ้าง พ่อบอกให้ผมมาบวชเพราะตั้งใจให้ผมเรียนทั้งทางโลกและทางธรรม ผมจะไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจอีกต่อไปแล้ว" สามเณรบัญชากล่าว
สามเณรภาคภูมิ พงศ์ศุภะมงคล ชั้น ม.1 เผยว่า เมื่อก่อนเคยเป็นเด็กซุกซน ทุกเย็นเมื่อเลิกเรียนก็จะต้องไปเล่นเกม ไม่ยอมอ่านหนังสือทำการบ้าน จนวันหนึ่งแม่โทร.ไปปรึกษาลุงว่าจะทำอย่างไรดี ลุงบอกว่าที่วัดมังกรฯ มีบวชเณรเรียนหนังสือ และเป็นวัดที่มีระเบียบมาก วันแรกที่ต้องนอนวัด ผมไม่รู้จักใครเลยจึงคิดหนีจะกลับบ้าน แต่พอนึกถึงแม่ก็คิดว่าจะต้องทำภารกิจนี้ให้ได้
ขณะที่ สามเณรประธาน ชั้น ม.4 บอกว่า การที่ได้มาบวชเรียนที่นี่ทำให้เรียนรู้ความอดทน ไม่ยึดติดกับความสุขสบาย ส่วนเรื่องเรียนขณะนี้มีความสนใจทางด้านคอมพิวเตอร์ ถ้าเป็นไปได้อยากเรียนต่อทางด้านนี้ให้สูงขึ้น และที่สำคัญคือ ชีวิตทุกวันนี้ต้องการทำเพื่อแม่ให้มีความสุขมากที่สุด
ด้าน พระชัชนนท์ กำลังศึกษาระดับอุดมศึกษา คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาจีน ซึ่งวัดมังกรฯ ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เล่าว่า หลังเรียนจบ ม.6 แล้ว ก็ความตั้งใจที่จะเรียนต่อให้สูงที่สุด อีกทั้งเจ้าอาวาสวัดก็ต้องการให้เยาวชนศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม ตามหลักพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานนิกายจีน
"กฎระเบียบของโรงเรียนที่นี่ สามเณรต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ต้องมีสัมมาปฏิบัติและความศรัทธาในวัตรปฏิบัติอันงดงามของคณะสงฆ์จีนนิกาย ตามพระธรรมวินัย เอาใจใส่ต่อการศึกษาเล่าเรียนตามที่พระครูอบรมสั่งสอน ทำประโยชน์ต่อวัดและโรงเรียน อีกทั้งยังต้องเสียสละตนเพื่อพระพุทธศาสนา ผู้บวชสามารถลาสิกขาได้ก็ต่อเมื่อจบการศึกษาในแต่ละระดับช่วงชั้น (ม.3 และ ม.6)"
พระชัชนนท์กล่าวว่า สามเณรที่นี่ส่วนใหญ่เรียนจบ ม.6 ส่วนหนึ่งลาสิกขาออกไปทำงานช่วยเหลือพ่อแม่ หรือเรียนต่อระดับอุดมศึกษา เพื่อนที่รู้จักก็เพิ่งจะสอบเข้าได้ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ไม่รู้ว่ามีใครสอบเข้าจุฬาฯ หรือธรรมศาสตร์ได้บ้าง อีกส่วนหนึ่งที่บรรพชาต่อเป็นพระภิกษุก็จะลงทะเบียนเรียนมหาวิทยาลัยเปิด เช่น สุโขทัยธรรมาธิราช รามคำแหง ส่วนคณะที่เลือกเรียนคือ ศิลปศาสตร์และนิติศาสตร์ เป็นหลัก
"สามเณรที่นี่ทุกคนจะมีระเบียบวินัย เช่น ถ้าไม่มีธุระจำเป็นจริงๆ ก็จะห้ามออกนอกวัด แต่ให้พ่อแม่เข้ามาเยี่ยมได้ การเดินต้องเข้าแถวเพื่อให้เกิดความสามัคคี ส่วนการสวดมนต์จะเป็นแบบมนต์จีน กราบพระแบบทิเบต และถือศีลพระโพธิสัตว์ เช่น ฉันเจเพื่อละเว้นการเบียดเบียนสัตว์ สามเณรที่เข้ามาบวชใหม่ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับพระธรรมวินัยของคณะสงฆ์จีน" พระชัชนนท์กล่าว
สำหรับคุณสมบัติของผู้จะเข้าบวชเรียนคือ จบ ป.6 และ ม.3 สวัสดิการและค่าใช้จ่ายในการบรรพชาและระหว่างอยู่จำพรรษา เจ้าอาวาสวัดรับอุปถัมภ์ทั้งหมด เมื่อสำเร็จการศึกษาในแต่ละระดับชั้นชั้นคือ ม.3 และ ม.6 กระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยาฐานะ พ่อแม่ ผู้ปกครองที่สนใจส่งบุตรหลานบวชเรียน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.lengnoeiyi.com หรือ 0-2222-3975 ต่อ 15
ที่มา : ไทยโพสต์