บทความ

โอวาทธรรม... พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์(เย็นเชี้ยวมหาเถระ)

รูปภาพ
1 ในมหาปณิธานของท่านเจ้าคุณเย็นเชี้ยวซือหู คืออบรบสั่งสอนศิษย์ตลอดชีวิตของท่านด้วยความเมตตา เพื่อสร้างคนเป็นดี ของครอบครัวและประเทศชาติ ช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไป. โอวาทธรรม... พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์(เย็นเชี้ยวมหาเถระ) "ความดีเป็นสิ่งที่เราต้องทำ ไม่ใช่รอให้ความดีมาหาเรา" "วัดมีงานเล็กน้อย พระเณรมาฉันเช้าขาดหลายรูป รู้สึกมีบรรยากาศวังเวง เงียบเหงา อึมครึม เศร้าสลด  หากพร้อมหน้าทุกคน รู้สึกมีบรรยากาศอบอุ่น สดชื่น เสมือนกับครอบครัวที่พ่อแม่ พี่น้อง หลานๆ อยู่พร้อมหน้ากันด้วยความสุข" "ควรเอาพุทธะจิตมาเป็นจิตของตน เอาปณิธานอันแน่วแน่ของครูบาอาจารย์ มาเป็นดั่งปณิธานของตน" "วางจิตให้อยู่สายกลาง วางจิตให้ว่าง เอาเสียงพุทธภาวนา มาอยู่ในใจของเรา การบำเพ็ญต้องทำร่วมกัน เพื่อให้เกิดความสงบ" "พวกเราดูสิ มีเพื่อนมนุษย์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย กับพวกเราทุกข์ยากลำบาก ได้มาวันนี้ไม่ได้มาช่วยเขานะ แต่เขาต่างหากกำลังช่วยเรา ช่วยเราอย่างไร ให้โอกาสสร้างทานบารมีกับเรา ให้โอกาสเราไ

เทศกาลทิ้งกระจาดมหาทาน (โผวโต่วหู่จิง)

รูปภาพ
           เทศกาลทิ้งกระจาดมหาทาน การอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ และดวงวิญญาณในภูมิอบายทั้ง 6 การให้ทานแก่ผู้ยากไร้  เดือนที่เจ็ด ตามปฏิทินจีน ซึ่งวัดจีนตามคติพุทธศาสนามหายานของชาวจีน จะจัดงานขึ้น       พระมหาโมคคลานะเถระเจ้าผู้ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีมารดาซึ่งมีมิจฉาทิฐิ ไม่เคารพในพระรัตนตรัย และไม่เชื่อในกฎแห่งกรรม ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เมื่อสิ้นใจ ได้ไปเสวยกรรมหนักในอบายภูมิ เป็นเปรตในอเวจี อดยากหิวโหย พระมหาเถระซึ่งเป็นพระอรหันต์ได้รับรู้ด้วยญาณว่ามารดารับกรรมอันหนัก ก็เกิดสงสาร จึงเข้าญาณสมาบัติ นำอาหารใส่บาตร ลงไปในนรก เพื่อโปรดมารดา เมื่อมาถึงเมืองนรกประตูนรกปิดอยู่ ท่านบังเกิดความสังเวชที่ไม่อาจช่วยมารดาได้จึงนำไม้เท้าธุดงค์กดลงไปที่พื้น ด้วยเดชแห่งความกตัญญูของพระเถระ ประตูนรกก็เปิดออกให้ท่านได้เข้าไปพบมารดา เมื่อท่านพบมารดาได้มอบอาหารจากบาตรให้พอมารดารับอาหารในบาตรกลับกลายเป็นเปลวไฟ ไปหมดสิ้น มารดาท่านก้ไม่สามารถรับประทานได้ พระมหาเถระจนใจไม่ทราบว่าจะแก้ไข้อย่างไร จึงกลับมาทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์จึงทรง ชี้แนะว่า มาร

เสาทั้ง 4 ในอุโบสถ ณ วัดบรมราชาฯ (เล่งเน่ยยี่2)

รูปภาพ
" ตุ้ยเลี้ยง (對聯) " คือ เสาขนาดใหญ่ จำนวน ๔ ต้น อยู่ทางด้านข้างของพระประธานทั้งสองด้าน เสาด้านละ ๒ ต้น เป็นแผ่นไม้สักครึ่งวงกลม ขนาดความสูงประมาณ ๘ เมตร เสาแต่ละต้นมีกลอนอักษรจีน จำนวนเสาละ ๑๕ ตัวอักษร แกะสลักปิดทองอย่างงดงามอักษรจีนนี้ เป็นลายสือศิลป์ของท่านเทพอักษรจีน หวังซีจือ 晉王義之 นำมาขยายใหญ่ กลอนจีนทั้งหมดนี้ ประพันธ์โดย อาจารย์ หลินหวินเฟิง 林雲峰 การแต่งกลอนที่มีชื่อเสียง จากประเทศสิงคโปร์ แปลและเรียบเรียงโดย อาจารย์ นิธิวุฒิ ศรีบุญชัยชูสกุล ประพันธ์โคลงโดย ธรรมนูญ จรัสวัฒน์ และคณะ เสาคู่ใน ใกล้องค์พระประธาน มีคำกลอนจีน ๑๕ ตัวอักษร เริ่มต้นด้านขวาคือ คำว่า 大 ด้านซ้าย คำว่า 雄 (大 雄 ) หมายถึง พระประธาน ๓ องค์ ที่ประดิษฐานในพระอุโบสถ แปลเป็นร้อยแก้วว่า บัลลังก์แห่งธรรมจักรพระมหายูไล หมุนเครื่องเปล่งรัศมีเรืองรองหมื่นลี้ พระอุโบสถศักดิ์สิทธิ์อลังการ งานสร้าง เทพอารามเด่นสง่าประทีปธรรม กลิ่นกระจายหอมสืบชั่วกาลนาน ประพันธ์เป็นโคลงสี่สุภาพ บัลลังก์ธรรมจักรเจ้า เรืองรอง โพธิธรรม รัศมีเคลื่อนหมุนเพียงครอง ครอบหล้า อลังก์อุโบสถสนอง งามเด่น

พระประธานวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ฯ

รูปภาพ
พระประธาน 3 พระองค์ คือ พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า  เป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบั น พระอมิตาภพุทธเจ้า และ พระไภษัชยคุรุไวฑูรย์พุทธเจ้ า  เป็นพระพุทธเจ้าในอดีต พระพุทธเจ้า ๓ พระองค์นี้ เป็นพระประธานในพระอุโบสถ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสร ณ์ฯโดยเปรียบเสมือน เป็นศูนย์กลางของพุทธจักรวา ลที่กว้างใหญ่ ไพศาลมีเหล่าพระโพธิสัตว์  พระอรหันต์และเทพธรรมบาลราย ล้อมอยู่ เป็นจำนวนอเนกอนันต์ในพุทธจั กรวาลแห่งนี้ องค์พระประธานแต่ละองค์ ความสูง จากวัชรบังลังค์ถึงยอดพระเก ศา ๔ เมตร ๓๐ เซนติเมตร กว้าง ๓ เมตร ๔ เซนติเมตร พระประธาน จำลองมาจากพระประธานในพระอุโบสถ วัดมังกรกมลาวาส ( เล่งเน่ยยี่ ) ซึ่งปัจุบันถือว่า เป็นพระประธานที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย  เป็นพุทธศิลป์จีนที่มีพุทธลั กษณ์งดงาม พระพักตร์มีลักษณะมหาเมตตา มหากรุณา  องค์พระมีพุทธลักษณะที่เด่น เป็นสง่าและงดงามอย่างยิ่ง พระศากยมุนีพุทธเจ้า 南無釋迦牟尼佛 พระศากยมุนีพุทธเจ้า คือพระสมณโคดม พุทธเจ้า องค์เดียวกับที่ศาสนิกชน ชาวไทยทั้งหลายเคารพ กราบไหว้บูชา มีพระนามเดิมว่า สิทธัตถะ หรือ สิทธารถะ  ประสูติในสกุลกษัตริย์พระเจ้ าสุทโธทนะ  เป็นพระราชบิดา และพร

ประวัติวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์

รูปภาพ
ประวัติ      วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์ เดิมเป็นโรงเจขนาดเล็ก บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ต่อมาคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย โดยวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) ได้มอบหมายให้พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ (เย็นเชี้ยว) เป็นประธานดำเนินการจัดสร้างฝ่ายสงฆ์ และพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) เป็นประธานที่ปรึกษาการจัดสร้างฝ่ายสงฆ์ โดยเปิดให้พุทธบริษัทชาวไทย-จีน ได้ร่วมบุญ ในการจัดสร้าง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสดังกล่าว           โดยมีนายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการพระราชวัง เป็นผู้ดำเนินการขอพระบรมราชานุญาตจัดสร้างวัดฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า  วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์  โดยเมื่อเวลา 15.00 น. วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เสด็จทรงเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์วัด ปัจจุบัน วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์ ได้จัดสร้างเสร็จสมบูรณ์ โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการกว่า 12

ประวัติวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) กรุงเทพฯ

รูปภาพ
วัดมังกรกมลาวาส  มีชื่อจีน  “ วัดเล่งเน่ยยี่ ”  ในภาษาจีนแต้จิ๋ว คำว่า  “ เล่ง ”  แปลว่า มังกร , คำว่า  “ เน่ย ”  แปลว่า ดอกบัวและคำว่า  “ ยี่ ”  แปลว่า อารามหรือวัด ทางด้านหน้าของวัดติดกับถนนเจริญกรุงนั้น เป็นบริเวณย่านการค้า ของชาวไทยเชื้อสายจีนตลอดสาย ด้านหน้าทางเข้าวัดมีร้านขายของเครื่องเซ่นไหว้และขนมต่างๆ เมื่อเดินเข้ามาภายในบริเวณวัดจะเป็นลานกว้าง ด้านหน้าจะเป็นวิหารท้าวจตุโลกบาล ทางด้านขวามือจะเห็นศาลเจ้า ส่วนทางด้าน ซ้ายมือจะมีศาลา และเมื่อหันหลังกลับไปจะเห็นตึก 9 ชั้น ที่มีชื่อว่า  “ ตึกพิพิธภัณฑ์วัตถุธรรม ”  ซึ่งเริ่มก่อสร้าง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 ภายใต้การควบคุมของวิศวกรรมยุทธโยธากองทัพบกและผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะจีนตึกนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ และมี โรงเรียนมังกรกมลาวาสวิทยาลัย ที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2533 โดยพระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ ( ท่านเจ้าคุณเย็นเชี้ยว )  เป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมสายสามัญศึกษาของวัดมังกรกมลาวาสที่มีการสอนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 และยังเป็นโรงเรียนแห่งแรกของคณะสงฆ์จีนในประเทศไทยอีกด้วย           สถาปัตยกรรมของวัดมังกรกมลาวาสนั้น เป็น