ประวัติพระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์(เย็นเชี้ยวมหาเถระ)
ประวัติสังเขป
พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ ไพศานสุนทรสมณกิจ สิริมงคลประสิทธิ์คุณาภิวัฒน์ พุทธบริษัทจีนวิเนตา (เย็นเชี้ยว)
พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ ไพศานสุนทรสมณกิจ สิริมงคลประสิทธิ์คุณาภิวัฒน์ พุทธบริษัทจีนวิเนตา (เย็นเชี้ยว)
อดีตรองเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย
อดีตเจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) กรุงเทพมหานคร
ผู้สถาปนาวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ฯ (เล่งเน่ยยี่2) นนทบุรี
พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ มีนามฉายาว่า เย็นเชี้ยว เกิดในตระกูลแซ่เจียม มีภูลำเนาเดิมอยู่เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร บิดาท่านชื่อ นายยุ่นฮะ แซ่เจียม มารดาท่านชื่อ นางซิ้วเกียว แซ่ลี้ เชื้อชาติจีน (จีนแต้จิ๋ว) มณฑลกวางตุ้ง สัญชาติไทย
เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๓ ปัจจุบันมีอายุ๖๔ ปี บรรพชาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ และอุปสมบทเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ ณ วัดโพธิ์เย็น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี โดยมีพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตรฯ (โพธิ์แจ้ง) เป็นพระอุปัชฌาย์
พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์ เป็นผู้มีปัญญาเฉียบแหลม ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมเป็นที่แตกฉาน ว่างจากกิจวัตรประจำวันแล้ว ก็ยังค้นคว้าศึกษาวิชาความรู้ต่างๆ ชอบการกุศล เจรจาไพเราะ มีกำลังใจกล้าหาญไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากทั้งหลายเคร่งครัดระเบียบวินัย อยู่ในสัมมาปฏิบัติเป็นพระอาจารย์อบรมสั่งสอนพระภิกษุสามเณรเป็นเวลากว่า ๕๖ ปี เป็นผู้มีความสามารถในการบริหารสูง มีปณิธานที่จะพัฒนาพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า จึงเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสของสาธุชนทั้งหลาย
พระเดชพระคุณท่านเป็นผู้มีจิตศรัทธาปสาทะในพระพุทธศาสนา ดังนั้นเมือ่ได้ฟังพระะรรมเทศนาจากพระมหาคณาจารญ์จีนธรรมสมาธิวัตร(โพธิ์เเจ้งมหาเถระ) ก็เกิดศรัทธาปสาทะในเนกขัมมวิสัย จึงถวายตัวเป็นศิษย์ ต่อมาได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุในคณะสงฆ์จีนนิกาย ณ วัดโพะิ์เย็น ตลาดลูกแก อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากท่านได้ก้าวสู่ร่มกาสาวพัสตร์แล้ว ได้ตั้งปณิธานมอบกายถวายชีวิตแด่พระพุทธศาสนา ตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรม สำรวมอินทรีสังวร เคร่งครัดในศีลจารวัตรพระวินัย ศึกษาพระธรรมคำภีร์จนแตกฉาน เอาใจใส่ศาสนกิจของคณะสงฆ์ ปรนนิบัติรับใช้พระอุปัชฌาย์ ด้วยคุณธรรมอันเป็นสัทธิวิหาริกพึงกระทำ น้อมนำการประพฤติปฎิบัติจริยาวัตรที่งดงามตามที่พระอุปัชฌาย์สั่งสอนอย่างเคร่งครัด สืบทอดปณิธานแห่งบูรพาจารย์ มายึดถือปฎิบัติด้วยสัมมาทิฎฐิ สมดังมหาปณิธานท่ีท่านได้ปรารภไว้ว่า
"ควรเอาพุทธจิตมาเป็นจิตของตน
เอาปณิธานอันแน่วแน่ของครูบาอาจารย์
มาเป็นดังปณิธานของตน"